คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตาคนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)...

คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตาคนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)...

คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตาคนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา...

คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตาคนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตาคนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตาคนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา...

(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)...

(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)...

(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตาคนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา...

(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)...

คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)...

(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)คนกลัวติดคุก แห่ปิดบัญชีม้ากว่า 500 ราย ธนาคารแทบแตก กฎหมายใหม่ได้ผลทันตา(21มี.ค.66)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่จ.นครพนมบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังมีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่17มีนาคม2566ที่ผ่านมาส่วนใหญ่เน้นเอาผิดเกี่ยวกับการกระทำผิดอาชญากรรมทางออนไลน์รวมถึงการเปิดบัญชีม้าประกอบธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายโดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับทำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอต่างๆของจ.นครพนมต่างแตกตื่นกลัวความผิดแห่ออกมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานพร้อมติดต่อธนาคารที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบหลักฐานปิดบัญชีป้องกันความผิดทางกฎหมายทั้งนี้สืบเนื่องจากพื้นที่จ.นครพนมก่อนนี้เคยมีปัญหามีนายหน้าขบวนการเปิดบัญชีม้าเดินสายตระเวนหลอกลวงชาวบ้านให้นำเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับค่าตอบแทนสวัสดิการจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนกระทั่งมาทราบภายหลังว่ามีชาวบ้านบางรายตกเป็นเหยื่อมีชื่อฐานความผิดเปิดบัญชีม้าบวกกับมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เอาผิดผู้เปิดบัญชีม้าทำให้ชาวบ้านพากันไปตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารต่างๆรวมถึงแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต้องกันความผิดที่จะตามมาเช่นเดียวกันกับพื้นที่อ.เรณูนครอ.นาแกและอ.ธาตุพนมมีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อออกมาแสดงตัวขอปิดบัญชีจากธนาคารแล้วไม่ต่ำกว่า400-500รายโดยจาการสอบถามชาวบ้านเปิดเผยว่าเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีนายหน้าชาวบ้านในพื้นที่ตระเวนรวบรวมเอกสารหลักฐานสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนอ้างว่าจะนำเป็นหลักฐานในการร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐพร้อมเสนอค่าตอบแทนรายละ400-500บาททำให้ชาวบ้านหลงเชื่อและหวังอยากได้เงินค่าจ้างพอมารู้ทีหลังบางรายพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคารและมีเงินหมุนเวียนหลายแสนบางรายถูกดำเนินคดีฐานความผิดเปิดบัญชีม้าพอทราบข่าวมีการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจึงออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจแจ้งความต่อตำรวจตามโรงพักในท้องที่และตรวจสอบตามธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบปิดบัญชีหากมีการนำเอกสารไปเปิดบัญชีโดยไม่มีส่วนรู้เห็นป้องกันความผผิดฐานเปิดบัญชีม้าด้านพล.ต.ต.ธวัชชัยถุงเป้าผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงนี้จากการตรวจสอบข้อมูลตามโรงพักท้องที่ต่างๆในพื้นที่12อำเภอพบว่าหลายโรงพักมีชาวบ้านออกมาแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกหลอกนำหลักฐานไปเปิดบัญชีธนาคารที่เสี่ยงต่อความผิดฐานเปิดบัญชีม้าหลังมีการบังคับใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566โดยก่อนนี้ถูกนายหน้าเสนอให้ค่าตอบแทนหัวละ400-500บาทอ้างว่าจะนำหลักฐานไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองรวมถึงรับเงินสวัสดิการรัฐแต่ลักลอบนำไปเปิดบัญชีโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเสี่ยงเกิดความผิดภายหลังหากมีผู้เสียหายอย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชนที่สงสัยตัวเองเข้าข่ายตความผิดและมีนายหน้านำเอกสารไปดำเนินการทางนิติกรรมการเงินหรือเปิดบัญชีให้ไปติดต่อกับทางธนาคารต่างๆเพื่อตรวจสอบเอกสารหากพบว่ามีการเปิดบัญชีม้าหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้แจ้งความเป็นหลักฐานพร้อมทำการปิดบัญชีป้องกันความปิดทางกฎหมายที่จะตามมาภายหลังส่วนการดำเนินการของตำรวจจะได้มอบหมายให้ส่วนเกี่ยวข้องสอบสวนเอาผิดหากบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือกระบวนการนายหน้ามีส่วนรู้เห็นหลอกลวงชาวบ้านสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ต.อาชยนไกรทองโฆษกตร.กล่าวว่าตามที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแผ่พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีพ.ศ.2566มีผลบังคับไปแล้วเมื่อ17มี.ค.66สำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะหน่วยหลักการบังคับใช้กฎหมายปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวแล้วพร้อมกับแจ้งข้อกฎหมายแนวทางการปฏิบัติให้ประชาชนรับทราบว่าอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์คดีออนไลน์เพื่อฉ้อโกงกรรโชกและรีดเอาทรัพย์ถือเป็นคดีที่ต้องอยู่บังคับของกฎหมายฉบับนี้เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือมีเหตุสงสัยว่าอาจจะมีการทำผิดทางเทคโนโลยีสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลโดยไม่ถือว่าบัญชีม้าเป็นข้อมูลที่ได้รับรองตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้นข้อมูลบัญชีม้าจะถูกธนาคารและเจ้าหน้าที่ส่งต่อให้กันเพื่อระงับช่องทางการทำธุรกรรมและอายัดบัญชีด้วยความรวดเร็วมากยิ่งขึ้นช่วยระงับความเสียหายของผู้เสียหายได้โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมมีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสำนักงานปปง.และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้ทั้งนี้ผู้เสียหายสามารถแจ้งข้อมูลไปยังสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจเพื่อแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราวจากนั้นให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา72ชั่วโมงโดยสามารถแจ้งความร้องทุกข์กับพงส.ที่ใดก็ได้เมื่อผู้เสียหายไปร้องทุกข์แล้วพนักงานสอบสวนจะพิจารณาดำเนินการกับบัญชีธนาคารดังกล่าวภายใน7วันพร้อมระบุระบบแจ้งความออนไลน์ Thaipoliceonline.com พร้อมเปิดระบบใช้งานได้ในวันนี้(20มี.ค.66)โฆษกตร.กล่าวว่าสำหรับบทลงโทษผู้ที่ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3ปีหรือปรับไม่เกิน300,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้า)ส่วนคนจัดหาบัญชีม้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่2ปีถึง5ปีและปรับตั้งแต่200,0000บาทถึง500,000บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ(คนจัดหาบัญชีม้า)...