สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  ...

สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  ...

วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  ...

วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนก...

วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนก...

สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนก...

สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  ...

วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  ...

สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกวันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  ...

วันนี้เวลา11.00น.ทางจ.ปราจีนบุรีร่วมกับปภ.สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและสภ.ศรีมหาโพธิร่วมแถลง กรณีแท่งเหล็กกัมมันตรังสี "ซีเซียม137"ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในอ.ศรีมหาโพธิ์จ.ปราจีนบุรีและถูกคาดการณ์ว่าอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ โดยในการแถลงยังไม่ยืนยันว่าอุปกรณ์นั้นเข้าไปสู่โรงงานแล้วถูกหลอมแต่มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอมที่ตรวจได้ว่าฝุ่งดังกล่าวคือฝุ่นซีเซียมจริงโดยหลังจากที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ตรวจเช็กอย่างละเอียดและยืนยันว่าสารที่พบในโรงหลอมเหล็กที่อ.กบินทร์บุรีเป็นวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137นั้นสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีจำนวน5แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยว่าเป็นสารกัมมันตรังสีหรือวัตถุที่อาจมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137หรือไม่ผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะผู้เชี่ยวชาญของปส.ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบพื้นที่โรงงานโดยรอบพบว่าโลหะที่ได้จากกระบวนการผลิตไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137เมื่อตรวจวัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่บริเวณโรงงานพบว่าระดับปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ ตามปริมาณรังสีในธรรมชาตินอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบคุณภาพอากาศน้ำบริเวณโดยรอบโรงงานพบว่าระดับรังสีอยู่ในระดับปกติตามปริมาณรังสีในธรรมชาติไม่มีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นแดงเกิดขึ้นจากโรงงานหลอมโลหะรีไซเคิลที่รับซื้อเศษโลหะมือสองที่มีการปะปนของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมโลหะและเมื่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137เข้าไปในกระบวนการหลอมซีเซียม-137จะถูกหลอมและระเหยกลายเป็นไอกระจายอยู่ในเตาหลอมซึ่งจะมีระบบการกรองของเสียจากกระบวนการผลิตและเป็นการทำงานในระบบปิดทั้งหมดทำให้ซีเซียม-137จะปนเปื้อนไปอยู่ในฝุ่นโลหะที่ได้จากกระบวนการหลอมซึ่งฝุ่นปนเปื้อนเหล่านี้จะมีระบบกรองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายออกสู่สิ่งแวดล้อมและถูกจัดเก็บควบคุมอยู่ในระบบปิดทั้งหมดดังนั้นฝุ่นโลหะปนเปื้อนได้ถูกระงับการเคลื่อนย้ายและจำกัดไม่ให้ออกนอกบริเวณโรงงานการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีนอกร่างกายของผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดภายในโรงงานผลการตรวจสอบไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีของผู้ปฏิบัติงานแต่อย่างใดสามารถสรุปได้ว่าฝุ่นโลหะปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137มีการปนเปื้อนในบริเวณที่จำกัดและถูกควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติและเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่เกิดการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137สู่สิ่งแวดล้อมไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและสถานการณ์ทั้งหมดได้ถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วไทม์ไลน์ของการหายของซีเซียม-137พอจะสรุปได้ดังนี้14มีนาคม:สภ.ศรีมหาโพธิระบุว่าบริษัทเจ้าของวัตถุดังกล่าวทราบว่าซีเซียม-137 หายไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์2566แต่มาแจ้งความวันที่10มีนาคมเบื้องต้นมีการตั้งรางวัล50,000บาทสำหรับผู้แจ้งข้อมูลจนนำไปสู่การติดตามวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 กลับคืนมาได้15มีนาคม:ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)สั่งรวมรวบผู้เชี่ยวชาญพร้อมประสานโรงพยาบาลกรณีรับส่งต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากรังสีและให้สสจ.ปราจีนบุรีให้ความรู้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง16มีนาคม: ค้นหาในโรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงรัศมี2กม.อีกครั้งแต่ยังไม่ได้เบาะแสตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงก็ยังไม่พบรวมถึงใช้โดรนบินจับสัญญาณกัมมันตรังสีพบว่ายังไม่มีการแพร่กระจายเพิ่มรางวัลเป็น100,000บาท17มีนาคม: ดร.กิตติ์กวินอรามรุญหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่าส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาในโรงงานจนแน่ใจประมาณ70-80%ว่าไม่เจอสำรวจระดับปริมาณรังสีณปัจจุบันนี้ระดับรังสียังอยู่ในสภาวะปกติ18มีนาคม:มีผู้แจ้งเบาะแสซีเซียม-137จำนวนมาก แต่ไปตรวจสอบแล้วไม่ใช่19มีนาคม: ช่วงค่ำมีรายงานว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ(ปส.)ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจรังสีในอุตสาหกรรมโรงหลอมโลหะจากเศษเหล็กที่เลิกใช้แล้วในพื้นที่จ.ปราจีนบุรีจำนวน4แห่งใช้เครื่องมือวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในการตรวจสอบเพื่อใช้สำรวจปริมาณรังสีและวิเคราะห์ชนิดของสารกัมมันตรังสีจากวัตถุต้องสงสัยผลการตรวจสอบพบว่ามีโรงงานแห่งหนึ่งมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137ในฝุ่นโลหะที่ได้จากผลิตโลหะ20มีนาคม:ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงกรณีซีเซียม-137สูญหาย  สรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนกสรุปการแถลง ไทม์ไลน์ "ซีเซียม-137" พบเป็นฝุ่นแดงแล้วแต่ไม่กระจาย ขออย่าตื่นตระหนก...